Wednesday, April 30, 2014

แตกต่าง เหมือนกัน



เนื่องด้วยอาชีพของผมนั้นต้องคลุกคลีกับการทำเด็กหลอดแก้ว จึงโชคดีที่มีโอกาสได้เห็นจุดกำเนิดของชีวิตเด็กน้อยน่ารักๆคนนึงตั้งแต่แรก เห็นตั้งแต่ครั้งที่เค้ายังเป็นแค่ฟองไข่ แล้วถูกนำมาผสมกับตัวอสุจิ และจากนั้นก็พัฒนากลายเป็นตัวอ่อน ได้เฝ้ามองการเจริญเติบโตของเค้าภายใต้กล้องจุลทรรศน์ทุกวันๆ จนกระทั่งเค้าโตพอที่จะย้ายเค้ากลับเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูกของมารดา เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้น และจากนั้นผมก็ยังได้ดูแลเค้าต่อตั้งแต่ที่เค้าอยู่ในครรภ์มารดา คอยติดตามอัลตร้าซาวน์ดูความสมบูรณ์ของเค้าเรื่อยมา จนกระทั่งถึงวันที่ครบกำหนดคลอดและผมก็ได้ทำคลอดเค้าออกมากับมือของผมเอง มันเป็นอะไรที่วิเศษมากจริงๆครับที่ได้เห็นการถือกำเนิดชีวิตๆหนึ่งตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันที่เค้าได้มีโอกาสลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ครั้งแรก รู้สึกราวกับว่าผมเป็นผู้ที่สร้างเค้าขึ้นมา แค่ลองนั่งคิดดูเล่นๆก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ มันมีความสุขมากจริงๆครับ

แต่จะมีใครรู้บ้างมั้ยครับว่า เมื่อตอนเด็กๆเราทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันราวกับโคลนนิ่งฝาแฝดกันมาเลยก็ว่าได้  แม้ว่าเมื่อเราโตขึ้น เราอาจจะมีความแตกต่างกันไปบ้าง ทั้งรูปร่างหน้าตา สูง ต่ำ ดำ ขาว อ้วน ผอม มีเชื้อชาติ ศาสนา และทัศนะคติที่ต่างกันออกไป แต่ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตนั้นเราเคยเหมือนกันมาก่อน ผมพูดจริงๆนะไม่ได้ล้อเล่น ไม่เชื่อก็ลองอ่านต่อดูสิครับ



นี่ยังไงหละครับ รูปถ่ายผ่านกล้องจุลทรรศน์ เมื่อครั้งที่เราทุกคนยังเป็นตัวอ่อนอายุได้เพียง 5 วันภายหลังจากที่มีการปฏิสนธิระหว่างไข่กับตัวอสุจิ ก่อนที่เราจะเจริญเติบโตมากขึ้นและฟักตัวออกจากเปลือก และฝังตัวในโพรงมดลูกของมารดา ราวๆวันที่ 6-7 ของชีวิต หลังจากนั้นก็เจริญเติบโตพัฒนาเกิดเป็นการตั้งครรภ์ในที่สุด เห็นมั้ยละครับว่าเราทุกคนต่างก็เคยมีช่วงเวลาที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันจริงๆ



ภาพนี้เป็นภาพที่แสดงลำดับพัฒนาการของมนุษย์เราตั้งแต่วันแรกที่ไข่และอสุจิปฏิสนธิกันจนเกิดเป็นตัวอ่อนขึ้น หลังจากนั้นเราก็มีการเจริญเติบโตแบ่งเซลล์เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จาก 1 เซลล์ กลายเป็น 2 เซลล์ในวันที่ 1 และจาก 2 เซลล์ กลายเป็น 4-6 เซลล์ในวันที่ 2 และจาก 4-6 เซลล์ กลายเป็น 8-10 เซลล์ในวันที่ 3 และจาก 8-10 เซลล์ กลายเป็นหลายๆเซลล์ในวันที่ 4 และในที่สุดเราก็กลายเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์พร้อมที่จะเข้าไปอยู่ในโพรงมดลูกของมารดาในวันที่ 5 หลังการปฏิสนธิ จากนั้นตัวอ่อนก็จะมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเซลล์ให้มากขึ้นและขยายขนาดจนเบียดให้เปลือกหุ้มตัวอ่อนบางลงเรื่อยๆและแตกออก แล้วจึงฟักตัวออกจากเปลือกเพื่อฝังตัวในโพรงมดลูก เจริญพัฒนากลายเป็นทารกตัวน้อยๆต่อไป



เราทุกคนคงต้องขอขอบคุณ ศาสตราจารย์ โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ที่ได้สร้างสรรผลงานสำคัญชิ้นประวัติศาสตร์แก่มวลมนุษยชาติ นั่นก็คือ ความสำเร็จในการให้กำเนิดเด็กหลอดแก้วรายแรกของโลก “หลุยส์ บราวน์” เด็กทารกเพศหญิงที่ถือกำเนิดขึ้นมาลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1978 หรือราวๆ 36 ปีมาแล้ว เพราะหากไม่มีท่านพวกเราคงไม่มีโอกาสได้รับรู้ว่า กว่าที่เราจะถือกำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์อยางทุกวันนี้ได้นั้น มีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ต่างๆเกิดขึ้นมากมายเพียงใด และเราก็คงไม่มีวันรู้เลยว่าครั้งหนึ่งเมื่อเรายังเป็นตัวอ่อนตัวเล็กๆนั้น เราทุกคนถือกำเนิดขึ้นมาจากเซลล์ไข่และอสุจิผสมรวมกันกลายมาเป็นตัวอ่อนมนุษย์และเราต่างก็มีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกัน แม้ว่าเมื่อเราโตขึ้น เราอาจมีความแตกต่างกันออกไปมากน้อยเพียงใดก็ตาม เพราะเหตุนี้เองท่านจึงได้รับการยกย่องจากคนทั่วทั้งโลกและได้รับเกียรติรับรางวัลโนเบิลไพรซ์ เมื่อปี ค.ศ.2010



หลุยส์ บราวน์ เด็กหลอดแก้วรายแรกของโลก ถ่ายร่วมกับ นางลิสลี่ย์ บราวน์ ผู้ป็นมารดา เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 1978



ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ระหว่าง ศาสตราจารย์ โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด และ นางลิสลี่ย์ บราวน์  และ หลุยส์ บราวน์ เด็กหลอดแก้วรายแรกของโลก พร้อมด้วย คาเมร่อน บุตรชายของเธอ ถ่ายเมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม ค.ศ.2008

แม้ว่าทุกวันนี้เราทุกคนอาจมีความแตกต่างกันไปบ้าง แต่ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตเรานั้นเราต่างก็เคยเหมือนกันมาก่อน เราอาจจะมีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ต่างกันไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา เชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม ความเชื่อ ตลอดจนทัศนะคติที่แตกต่างกันออกไป แต่ใช่ว่าความต่างจะทำให้เราร่วมกันอย่างมีความสุขไม่ได้ อย่างน้อยเราก็เป็นพี่เป็นน้องร่วมโลกใบเดียวกัน และเป็นสมาชิกในครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วยิ่งถ้าเราอยู่ภายใต้ชายคาบ้านหลังใหญ่หลังเดียวกัน บ้านที่เรียกว่า ประเทศไทยด้วยแล้ว คงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเราทุกคนนั้นจะมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากแค่ไหน แม้ว่าในบางครั้งเราอาจมีความคิดและทัศนคติที่แตกต่างกัน แต่อย่างน้อยเราก็ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องคนไทยเหมือนๆกัน ดังนั้นเราควรหันมารักและสามัคคีกันให้มากเข้าไว้ ดีกว่ามัวมาคอยรบราฆ่าฟันพี่น้องคนไทยด้วยกันเองอย่างเช่นทุกวันนี้ คุณเห็นด้วยกับผมมั้ยครับ “ แตกต่าง แต่ก็ยัง เหมือนกัน ”

ปล. วันเด็กปีหน้า ถ้าใครจะหารูปในวัยเด็ก เอาแบบที่ดูเด็กสุดๆแบบนี้มาโพสอวดกันบ้างก็ไม่ว่าอะไรนะครับ แต่ก็คงยากหน่อยเพราะคนที่จะมีภาพแบบนี้ได้ ก็เฉพาะคนที่เกิดมาจากการทำเด็กหลอดแก้วเท่านั้นนะครับ (มิตรสหายท่านหนึ่งเคยว่าไว้)


นพ.ปัญญา ศักดิ์สง่าวงษ์
สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากและผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช

Monday, April 21, 2014

กว่าจะมาเป็นเราได้อย่างทุกวันนี้ คุณเชื่อมั้ย ? “มันไม่ง่ายเลย”


ก่อนที่เราจะตัดสินว่าชีวิตนี้เราเป็นผู้พ่ายแพ้ และคิดที่จะยอมจำนนต่อปัญหาและอุปสรรคต่างๆมากมายรอบตัวเรา คุณเคยรู้มาก่อนบ้างหรือไม่ว่า ครั้งหนึ่งเราก็เคยได้เป็นผู้ชนะอย่างสมศักดิ์ศรีมาแล้วเหมือนกัน ตั้งแต่เรายังไม่ทันได้ลืมตาขึ้นมาเผชิญโลกกว้างใบนี้เสียด้วยซ้ำ มันอาจจะผ่านมานานเกินไป จนอาจทำให้เราหลงลืม ไม่ทันคิดเลยว่ามีชัยชนะยิ่งใหญ่ที่สำคัญครั้งหนึ่งได้เคยเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเรา

Wednesday, April 16, 2014

"ไก่กับไข่" ความพิเศษของครรภ์แฝด ที่มาพร้อมความเสี่ยง




มีใครเห็นด้วยกับผมบ้างมั้ยครับว่า ในละคร อย่าลืมฉัน  “แฝดไก่กับไข่” เป็นเด็กฝาแฝดที่น่ารัก น่าหยิกแก้มซะจริงๆ เห็นแล้วหมั่นเขี้ยว แพ้ทางความน่ารักและความไร้เดียงสาของเด็ก คงเป็นเพราะเหตุผลนี้มั้งครับถึงทำให้ชีวิตผมทุกวันนี้ถึงต้องกลายมาเป็นพ่อบุญธรรมให้กับเด็กๆในสังกัดของครอบครัวมีบุตรยากหลายๆครอบครัว และนับวันผมชักจะมีเด็กๆในสังกัดเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วสิครับทีเนี้ยะ!!



คงเป็นเพราะความน่ารักและดูพิเศษกว่าเด็กปกติทั่วๆไปของเด็กแฝดที่เป็นเด็กน้อยน่ารักและมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันมากกว่า 1 คน จึงเป็นความใฝ่ฝันของหลายๆครอบครัวที่อยากจะมีลูกแฝดและเข้ามาขอคำปรึกษาแนะนำที่คลินิกรักษาผู้มีบุตรยากอยู่ไม่น้อยทีเดียว แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า แม้ว่าการตั้งครรภ์แฝดจากกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อยกว่าการตั้งครรภ์แฝดปกติตามธรรมชาติ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเด็กแฝดที่ถือกำเนิดมาจากการทำเด็กหลอดแก้วนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็น “แฝดเทียม” คือ มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกัน อาจดูคล้ายกัน เพศอาจจะเหมือนหรือต่างกันเลยก็เป็นได้ แต่ที่สำคัญคือ มี DNA ที่แตกต่างกัน มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเป็น “แฝดแท้” หรือแฝดเหมือน คือ มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน เพศเดียวกัน และมี DNA เหมือนกันทุกอย่าง ซึ่งสาเหตุเกิดจากอะไรนั้น จะขออธิบายต่อไปครับ

Friday, April 11, 2014

Q&A กับ Dr.เช้าตรู่: ก่อนมีประจำเดือนมักมีเลือดสีน้ำตาลๆออกมาก่อน1-2 วัน ผิดปกติหรือเปล่า



Q: คุณหมอคะ ช่วงก่อนมีประจำเดือนมักมีเลือดสีน้ำตาลๆออกมาก่อน1-2 วัน ถือว่าผิดปกติมั้ยคะ แล้วถ้าจะนับวันแรกของประจำเดือนควรนับวันไหนดีคะ

A: เลือดประจำเดือนที่ไหลออกมาภายนอกให้คุณสาวๆเห็นนั้น แท้ที่จิงแล้วก็คือ เยื่อบุผนังโพรงมดลูกที่หนาตัวขึ้นมาตามอิทธิพลของฮอร์โมนเพศหญิงในแต่ละรอบประจำเดือน เพื่อรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนในโพรงมดลูกกรณีที่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น แต่หากรอบเดือนนั้นไม่มีการปฏิสนธิ เยื่อบุผนังโพรงมดลูกก็จะหลุดลอกออกมาเป็นเลือดประจำเดือนสีแดงช้ำๆให้เร็วเห็น ปริมาณอาจมากบ้างน้อยบ้างขึ้นกับความหนาของเยื่อบุผนังโพรงมดลูกคับ ยิ่งหนามากเลือดประจำเดือนก็อาจจะออกมากตามไปด้วยคับ

ในกรณีที่สาวๆบางท่านมีเลือดสีน้ำตาลคล้ำๆ นำมาก่อนการเปนประจำเดือน เป็นผลจาก การหลุดลอกตัวเกิดขึ้นบางส่วน ยังไม่เกิดการหลุดลอกตัวสมบูรณ์ทั้งโพรงมดลูก จึงทำให้เลือดที่ออกปริมาณไม่มาก เมื่อเจอสภาพความเปนกรดในช่องคลอดคุณผู้หญิง สีจึงเปลี่ยนจากแดงๆเป็นน้ำตาลๆคับ
ถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถพบได้คับ
แต่การจะเริ่มนับวันที่1 ของรอบประจำเดือน แนะนำว่าควรเป็นวันที่เยื่อบุผนังโพรงมดลูกส่วนใหญ่ลอกตัวพร้อมกันคับ นั่นก็คือวันที่เลือดประจำเดือนเป็นสีแดงช้ำๆปริมาณมากนั่นเองคับ

กรณีที่มีเลือดสีน้ำตาลคล้ำๆตามหลังการมีประจำเดือนก็เช่นกัน เป็นผลจากเลือดประจำเดือนที่ออกมายังออกมาไม่หมดเหลืออยู่เล็กน้อย จึงทะยอยออกมา เมื่อเจอสภาพความเป็นกรดในช่องคลอดสีก็เลยเปลี่ยนไปนั่นเองคับ

Monday, April 7, 2014

Q&A กับ Dr.เช้าตรู่: หลังฉีดยาคุมประจำเดือนไม่มา บางเดือนมากะปริบกะปรอย



Q : เมื่อก่อนเคยฉีดยาคุมคะ ประมาณสองสามครั้งได้ แต่ในช่วงระหว่างที่ฉีดไม่เคยมีประจำเดือนมาเลยแม้แต่นิดแล้วก็หยุดฉีดไปหลายปี เพิ่งจะมาฉีดใหม่เมื่อเดือนก่อน เดือนแรกหลังฉีดไม่ประจำเดือนมา แต่เดือนนี้ตอนนี้มีประจำเดือนมา มาแบบกะปริดกะปรอยหนึ่งวันประมาณหนึ่งแผ่นรองอนามัยได้ แต่มันน่ารำคาญมาก ร่างกายเราผิดปกติอะไรไหมคะแบบนี้ แล้วมีวิธีไหนบ้างไหมคะทีจะทำให้มันหยุดไหล ภายในอาทิตย์นี้ถึงอาทิตย์หน้า เพราะต้องไปต่างประเทศ เลยไม่สะดวก ขอคำแนะนำด้วยคะ

A : ยาฉีดคุมกำเนิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันของประเทศไทย หรือ DMPA  เป็นยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว คือ มีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนตัวเดียว 1 เข็ม สามารถคุมกำเนิดได้ประมาณ 3 เดือน และต้องฉีดใหม่ทุกๆ 3 เดือน

ยาฝังคุมกำเนิด หรือ Implanon  เป็นยาคุมกำเนิดที่มีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนตัวเดียวเช่นกันกับยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิดจะมีลักษณะเป็นหลอดเล็กๆขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาญ 2 มิลลิเมตร ยาว 3 เซนติเมตร จำนวน 1หลอด ฝังอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณท้องแขน โดยที่ ยาฝังคุมกำเนิด1 หลอด ออกฤทธิ์คุมกำเนิดได้นาน 3 ปี เพราะกลไกการออกฤทธิ์ของยาฝังจะค่อยๆปลดปล่อยตัวยาฮอร์โมนที่บรรจุอยู่ในหลอดยาออกมาทีละนิดๆทุกวัน

การที่มีเลือดออกกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอดหรือไม่มีประจำเดือนมาเลย ถือว่าเป็นผลข้างเคียงอย่างหนึ่งของยาฉีดและฝังคุมกำเนิดครับ ซึ่งสามารถพบเหตุการณ์เช่นนี้ได้ไม่ใช่ความผิดปกติที่ร้ายแรงแต่อย่างใด สาเหตุก็เพราะผนังโพรงมดลูกแห้งและบางลงมากจนเกินไปภายหลังจากการได้รับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนตัวเดียวเป็นเวลานานๆ ซึ่งถ้าอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอดสีน้ำตาลบ้าง แดงบ้าง นานๆครั้งนั้นไม่ได้ทำให้รำคาญใจก็ไม่จำเป็นต้องรักษาอะไรครับ เพราะเมี่อหยุดใช้ยาฉีดหรือเอายาฝังคุมกำเนิดออก ประจำเดือนก็จะกลับมาเป็นปกติภายใน 3-6 เดือน หรือบางรายนานถึง 1 ปี ก็เป็นได้ครับ

แต่ในกรณีที่มีเลือดออกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอดบ่อยๆต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆจนเกิดความรำคาญใจ แสดงว่าโพรงมดลูกอาจจะแห้งมากเกินไป เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือว่าผนังโพรงมดลูกตอนนี้คล้ายๆกับผิวหนังในฤดูหนาวที่แห้งมาก พอผิวที่แห้งแตกก็อาจมีเลือดออกซิบๆได้ ดังนั้นการแก้ไขง่าย ๆ ก็คือ ต้องสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังด้วยการทาโลชั่น แต่โลชั่นสำหรับผนังโพรงมดลูกก็คือฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือก็คือฮอร์โมนเพศหญิงนั่นเองคับ

ซึ่งฮอร์โมนเพศหญิงที่หาได้ง่ายๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม เช่น dian-35, yasmin , marvelon ซึ่ง 1แผง มี 21 เม็ด ทุกเม็ดมีปริมาณยาเท่ากันครับ รับประทานเม็ดไหนก่อน-หลังก็ได้คับ แต่หากรับประทานตามวันหรือลูกศรที่อยู่บนแผงยาก็จะช่วยทำให้ง่ายต่อการจดจำว่าลืมรับประทานยาหรือไม่ครับ แต่ถ้าเป็นชนิด 28 เม็ด เช่น mercilon แนะนำว่าให้ทิ้ง 7 เม็ดสุดท้ายที่มีสีหรือขนาดเม็ดยาที่ต่างจากเม็ดยา 21 เม็ดไป เพราะเป็นส่วนของเม็ดยาที่ไม่มีฮอร์โมนแต่เป็นเพียงวิตามิน หลังจากนั้นก็สามารถใช้ยาคุมที่เหลือ 21 เม็ดที่เหลือได้เหมือนกันแล้วครับ โดยรับประทานเม็ดไหนก่อน-หลังได้เช่นเดียวกันครับ วันละ 1 เม็ด ก่อนนอน เป็นระยะเวลาสั้นๆประมาณ 10-14 วัน หรือถ้าเลือดออกเยอะอาจรับประทานทานจนหมดแผง 21 เม็ดเลยก็ได้ครับ

เพียงเท่านี้อาการเลือดออกกะปริบกะปรอยก็จะหายไป และถ้ามีอาการเช่นนี้กลับมาอีกก็รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดเช่นเดิมแบบนี้เป็นระยะๆคับ ก็จะช่วยลดความรำคาญจากภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอยจากการฉีดหรือฝังยาคุมกำเนิดไปได้วิธีหนึ่งครับ

Sunday, April 6, 2014

ฝ่าวิกฤติตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก พร้อมรับมือท้องนอกมดลูก-ท้องลม-ตัวอ่อนเสียชีวิต




คุณผู้หญิงที่วางแผนจะมีบุตร และรอคอยเวลาที่จะมีลูกตัวน้อยๆมาเติมเต็มชีวิตคู่ ไม่ว่าจะด้วยวิธีธรรมชาติหรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว เมื่อประจำเดือนขาดหายไปคงต้องรู้สึกตื่นเต้นและแอบลุ้นอยู่ในใจ แล้วยิ่งเมื่อทดสอบการตั้งครรภ์จากปัสสาวะหรือตรวจเลือดยืนยันแล้วพบว่าท้องขึ้นมาจริงๆ แทบทุกคนต้องดีใจเป็นที่สุดอย่างแน่นอน แต่อย่าเพิ่งด่วนดีใจไปครับ เพราะนี่เป็นเพียงแค่ก้าวแรกของการตั้งครรภ์เท่านั้น ยังมีเหตุการณ์ต่างๆที่ไม่คาดคิดอีกมากมายเกิดขึ้นได้เสมอโดยเฉพาะช่วง 3 เดือนแรก ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอเพื่อประเมินว่าการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นนั้นปลอดภัยหรือไม่ และควรดูแลตัวเองและสังเกตอาการผิดปกติอย่างไรบ้าง ซึ่งพอจะไล่เลียงถึงลำดับขั้นตอนการเฝ้าติดตามให้เข้าใจง่ายๆได้ดังนี้

ช่วงอายุครรภ์ 4-5 สัปดาห์ นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย

ภายหลังจากที่ประจำเดือนขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์หรือประมาณ 12-14 วัน ภายหลังจากการย้ายตัวอ่อนในกรณีทำเด็กหลอดแก้ว หากตรวจการตั้งครรภ์โดยการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาระดับฮอร์โมน hCG ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากรก แล้วพบว่าฮอร์โมน hCG มีระดับที่สูงขึ้น สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณผู้หญิงมีภาวะตั้งครรภ์เกิดขึ้น โดยเราเรียกการตั้งครรภ์ระยะนี้ว่า Chemical pregnancy หรือการตั้งครรภ์ที่วินิจฉัยจากผลแล็ป ระยะนี้คุณผู้หญิงอาจมีอาการคัดตึงเต้านม บางรายเริ่มเบื่ออาหาร ส่วนอาการแพ้ท้องอาจยังไม่ชัดเจนนักเพราะระดับฮอร์โมน hCG ที่เป็นสาเหตุของอาการแพ้ท้องนั้นยังอยู่ในระดับที่ยังไม่สูงมากนัก การอัลตร้าซาวน์ในระยะนี้อาจยังไม่สามารถเห็นถุงการตั้งครรภ์ในโพรงมดลูกได้ชัดเจนนัก ดังนั้นตราบใดที่ยังไม่สามารถอัลตร้าซาวน์เห็นถุงการตั้งครรภ์ภายในโพรงมดลูก ก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นท้องนอกมดลูกได้อยู่ จึงจำเป็นต้องมีการนัดตรวจติดตามอัลตร้าซาวน์อีกครั้งประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากนี้ ระยะนี้คุณผู้หญิงควรต้องดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี พักผ่อนให้เพียงพอ งดยืน-เดินนานๆ หลีกเลี่ยงยกของหนัก การออกกำลังกายหักโหม รับประทานอาหารที่ใหม่-สด-สะอาดเพื่อป้องกันอาการท้องเสีย และใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ตลอดจนเฝ้าสังเกตอาการปวดหน่วงท้องน้อย เลือดออกทางช่องคลอดหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ เป็นลม ซึ่งเป็นอาการผิดปกติของภาวะแท้งบุตร หรือท้องนอกมดลูกได้ครับ

การตั้งครรภ์นอกมดลูก คือ การตั้งครรภ์ที่ตัวอ่อนมีการเจริญเติบโตอยู่ที่อื่นภายนอกโพรงมดลูก เช่น ที่ท่อนำไข่ ที่รังไข่  ที่เยื่อบุช่องท้อง เป็นต้นครับ ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้เป็นตำแหน่งที่มีกล้ามเนื่อน้อย บอบบาง ไม่เหมาะสมต่อการตั้งครรภ์ จึงก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วตัวอ่อนจะเจริญเติบได้ไม่เกินอายุครรภ์ 3 เดือน ถุงการตั้งครรภ์ก็มักจะแตกหรือแท้ง ทำให้ตกเลือดในช่องท้องเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หญิงตั้งครรภ์ที่สงสัยว่าอาจจะมีภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก อาจมีอาการผิดปกติ ได้แก่ เลือดออกทางช่องคลอด ปวดท้องน้อยรุนแรง วิงเวียนศีรษะเป็นลม ซึ่งต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจภายในและทำอัลตร้าซาวน์ ถ้าอัลตร้าซาวน์ไม่พบถุงการตั้งครรภ์ในโพรงมดลูก แต่กลับพบก้อนผิดปกติหรือเห็นถุงการตั้งครรภ์ภายนอกโพรงมดลูก ก็สามารถวินิจฉัยว่าเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก โดยปกติแล้วการตั้งครรภ์นอกมดลูกนั้นจะไม่สามารถดำเนินต่อไปจนสำเร็จคลอดออกมาเป็นทารก จำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์ด้วยการผ่าตัดเอาออกก่อนที่จะแตกหรือก็ต้องใช้ยาทำลายให้ฝ่อสลายหายไปเพื่อความปลอดภัยของหญิงตั้งครรภ์ครับ  (สามารถหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการตั้งครรภ์นอกมดลูก จากบทความ ” ไขปัญหา สายน้ำผึ้ง คุณหมอเช้าตรู่คะ หนูท้องนอกมดลูกจริงๆเหรอ” ได้จากบทความก่อนหน้านี้ครับ)
   


                  
                       
ภาพอัลตร้าซาวน์ทางช่องคลอด พบถุงการตั้งครรภ์ภายในโพรงมดลูก 

Thursday, April 3, 2014

Q&A กับ Dr.เช้าตรู่: แท้งบุตรแล้วไม่ขูดมดลูก จะทำให้มดลูกไม่สะอาดหรือเปล่า และเป็นสาเหตุให้ต่อไปมีลูกยากขึ้นมั้ยคะ?



Q : แท้งบุตรแล้วไม่ขูดมดลูก จะทำให้มดลูกไม่สะอาดหรือเปล่า และเป็นสาเหตุให้ต่อไปมีลูกยากขึ้นมั้ยคะ?


A : การแท้งบุตรไม่ว่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือจากการที่แพทย์ชักนำให้เกิดการแท้ง เช่น ทารกในครรภ์เสียชีวิต ภาวะท้องลม ก่อนอื่นคงต้องดูก่อนว่าการแท้งนั้น ชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์หรือถุงการตั้งครรภ์นั้นแท้งออกมาหมด ครบสมบูรณ์หรือไม่ ถ้าตรวจภายในและอัลตร้าซาวน์เช็คดูแล้วว่าแท้งออกมาหมด ครบสมบูรณ์ดีก็ไม่จำเป็นต้องขูดมดลูกซ้ำ เพราะการขูดมดลูกในกรณีแท้งครบสมบูรณ์ไม่ได้ช่วยให้มดลูกสะอาด หรือทำให้มีลูกครั้งต่อไปง่ายขึ้น ตามที่เราๆ เข้าใจกันแต่อย่างใด แต่กลับทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงตามมาเสียมากกว่า เช่น มดลูกติดเชื้อ มดลูกทะลุ รวมถึงอาจเป็นการทำให้เกิดบาดแผลภายในโพรงมดลูกลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อมดลูก ส่งผลทำให้เกิดพังผืดตามมาจนเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะไม่มีประจำเดือนเลยภายหลังจากขูดมดลูก บางรายประจำเดือนออกน้อยลงกว่าเดิมชัดเจน หรือมีปัญหาภาวะมีบุตรยากได้ในอนาคตก็เป็นได้

ดังนั้นความเชื่อที่ว่าถ้าแท้งแล้วไม่ได้ขูดมดลูก จะทำให้มดลูกไม่สะอาด ควรได้รับการทำความเข้าใจเสียใหม่ และเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้รับทราบเพื่อที่จะได้มีความเข้าใจที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้นคับ

สรุปว่าถ้าเกิดการแท้งเองตามธรรมชาติหรือมีความจำเป็นต้องใช้ยาเหน็บให้แท้งออกมาตามคำแนะนำของแพทย์ ถ้าหากเป็นการแท้งออกมาหมดครบสมบูรณ์ก็ไม่จำเป็นต้องขูดมดลูกครับ คือจะพยายามหลีกเลี่ยงการขูดมดลูกโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนไข้ยังมีความต้องการที่จะมีบุตร แพทย์ที่ดูแลจะให้ความสำคัญกับประเด็นการขูดมดลูกมาก ถ้าเลี่ยงได้หรือไม่มีความจำเป็นก็จะไม่ขูดเลยครับ

แต่หากจำเป็นต้องขูดมดลูกขึ้นมาจริงๆ เช่น แท้งออกมาไม่ครบ ก็อย่าได้วิตกกังวลมากจนเกินไปเพราะด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากขึ้น จึงมีการผลิตเครื่องมือขูดมดลูกแบบใหม่ขึ้นมา ซึ่งมีลักษณะเป็นหลอดพลาสติกเล็กๆหลากหลายขนาดต่อเข้ากับกระบอกสุญญากาศ เพื่อเป็นการทดแทนการขูดมดลูกโดยใช้เหล็กแหลม ที่ใช้กันมาในอดีต เรียกเครื่องมือขูดมดลูกชนิดใหม่นี้ว่า เครื่องดูดมดลูกมือถือ ซึ่งสามารถหาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทความเรื่อง"เครื่องดูดมดลูกมือถือ" โฉมใหม่ขูดมดลูก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

Wednesday, April 2, 2014

ไขปัญหา "สายน้ำผึ้ง" หมอเช้าตรู่คะหนูท้องนอกมดลูกจริงๆเหรอ ?



ช่วงนี้งานยุ่งมากครับ ทำให้พลาดชมละคร สามีตีตรา ไปหลายตอนแล้ว เลยต้องมาตามเก็บตกดูละครย้อนหลังกันจนดึกจนดื่น ยิ่งละครจะอวสานในคืนนี้ด้วยแล้ว ทำเอาผมขอบตาดำไปทำงานแทบทุกวันเลยก็ว่าได้ครับ แต่ประเด็นมันคืออย่างนี้คับ มีแฟนเพจถามคำถามเข้ามาครับว่า “เห็นฉากหนึ่งในละครที่คุณหมอบอกสายน้ำผึ้งว่าเธออาจจะท้องนอกมดลูกเพราะตรวจพบว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนน้อยผิดปกติ จึงสงสัยว่าท้องนอกมดลูกนี้มันคืออะไร” งานเข้าล่ะสิครับทีนี้ นอกจากจะตามดูย้อนหลังไม่ทันแฟนเพจแล้วยังตกข่าวอีกครับว่าสายน้ำผึ้งตั้งท้องรอบใหม่แล้ว ทำเอาผมกันเงิบไปเลย!! รีบกลับไปดูละครย้อนหลังแทบไม่ทันแต่เมื่อดูจบก็พอจะเข้าใจประเด็นคำอธิบายของคุณหมอในละครที่สงสัยว่า สายน้ำผึ้ง เธออาจจะท้องนอกมดลูก แล้วล่ะครับ 

Tuesday, April 1, 2014

Q&A กับ Dr.เช้าตรู่: แท้งบุตรแล้วไม่ขูดมดลูก จะทำให้มดลูกไม่สะอาดหรือเปล่า และเป็นสาเหตุให้ต่อไปมีลูกยากขึ้นมั้ยคะ?



Q : แท้งบุตรแล้วไม่ขูดมดลูก จะทำให้มดลูกไม่สะอาดหรือเปล่า และเป็นสาเหตุให้ต่อไปมีลูกยากขึ้นมั้ยคะ?

A : การแท้งบุตรไม่ว่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือจากการที่แพทย์ชักนำให้เกิดการแท้ง เช่น ทารกในครรภ์เสียชีวิต ภาวะท้องลม ก่อนอื่นคงต้องดูก่อนว่าการแท้งนั้น ชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์หรือถุงการตั้งครรภ์นั้นแท้งออกมาหมด ครบสมบูรณ์หรือไม่ ถ้าตรวจภายในและอัลตร้าซาวน์เช็คดูแล้วว่าแท้งออกมาหมด ครบสมบูรณ์ดีก็ไม่จำเป็นต้องขูดมดลูกซ้ำ เพราะการขูดมดลูกในกรณีแท้งครบสมบูรณ์ไม่ได้ช่วยให้มดลูกสะอาด หรือทำให้มีลูกครั้งต่อไปง่ายขึ้น ตามที่เราๆ เข้าใจกันแต่อย่างใด แต่กลับทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงตามมาเสียมากกว่า เช่น มดลูกติดเชื้อ มดลูกทะลุ รวมถึงอาจเป็นการทำให้เกิดบาดแผลภายในโพรงมดลูกลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อมดลูก ส่งผลทำให้เกิดพังผืดตามมาจนเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะไม่มีประจำเดือนเลยภายหลังจากขูดมดลูก บางรายประจำเดือนออกน้อยลงกว่าเดิมชัดเจน หรือมีปัญหาภาวะมีบุตรยากได้ในอนาคตก็เป็นได้