Monday, March 17, 2014

Q&A กับ Dr.เช้าตรู่ : อาการประจำเดือนมาไม่หยุด

Q&A กับ Dr.เช้าตรู่



Q : คุณหมอค่ะคุณแม่หนูเมื่อก่อนหน้านี้มีอาการประจำเดือนมาไม่หยุด (ปกติมามากอยู่แล้ว) แต่มามากเป็นสิบวัน ท่านเลยตัดสินใจไปหาหมอค่ะ หมอบอกว่ามดลูกบวมเลยให้ยาฉีดให้ครบหกเดือน ตอนนี้แม่หนูฉีดมาแล้วสองเข็ม หลังจากฉีดครบเห็นแม่บอกว่าคุณหมอจะดูอาการ หนูอยากทราบว่าอาการอย่างนี้เสี่ยงต่อโรคภายในผู้หญิงไปมั้ยค่ะ

A : โดยปกติแล้วคุณผู้หญิงที่ประจำเดือนมามากหรือมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดโดยเฉพาะอายุมากกว่า 45 ปี แนะนำว่าอาจต้องได้รับการเก็บชิ้นเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกออกมาตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกซ่อนเร้นอยู่ แต่ในบางรายที่เพิ่งมีอาการครั้งแรก แพทย์อาจจะตรวจภายในร่วมกับทำอัลตร้าซาวน์ช่องท้องส่วนล่างดูก่อนว่ามีโรคอะไรที่อาจเป็นสาเหตุอยู่มั้ย ซึ่งโรคที่เจอได้บ่อยๆ คือ เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกคับ


การรักษามักจะขึ้นกับอาการและขนาดของก้อน ซึ่งแพทย์จะพิจารณาว่าสามารถใช้ยาได้หรือไม่ หรือจำเป็นต้องผ่าตัดรักษา ในกรณีที่สามารถใช้ยาได้ ยาที่ใช้รักษา คือยากลุ่มฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด ยาฉีดคุมกำเนิด หรือยากดการทำงานของฮอร์โมนเพศในร่างกาย เป็นต้นครับ

ยาฉีดคุมกำเนิด มีผลทำให้ประจำเดือนออกน้อยลงจนอาจจะขาดประจำเดือนไปเลยก็เป็นได้ แต่ช่วง2-3 เดือนแรกอาจยังมีประจำเดือนมามากอยู่ได้ ต้องใช้เวลาสักระยะ ประมาณ 3-6 เดือน ประจำเดือนจะออกน้อยลงคับ  แต่ถ้าหากฉีดยาติดต่อกันจนครบ 6 เดือนแล้ว อาการไม่ดีขึ้น แนะนำว่า อาจต้องขูดมดลูกเพื่อได้ชิ้นเนื้อมาตรวจให้แน่ชัดแล้วล่ะคับ ว่ามีมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกหลบซ่อนอยู่หรือไม่ เพราะโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก คนไข้ก็จะมีอาการประจำเดือนมาเยอะได้เช่นกัน จริงๆแล้วผู้หญิงทุกรายที่มีเลือดออกผิดปกติควรได้รับการขูดมดลูกเพื่อได้ชิ้นเนื้อมาตรวจเบื้องต้นทุกรายก่อนเริ่มการรักษา

แต่บางกรณีอาจลองรักษาด้วยยาไปก่อนได้ ถ้าหากไม่ดีขึ้นจึงต้องขูดมดลูกเพื่อหาสาเหตุอื่นๆที่รุนแรงเช่น มะเร็ง ในภายหลัง กรณีของคุนแม่ถ้าใช้ยาแล้วได้ผลก็สามารถใช้ยาต่อไปได้ก่อนคับ แต่ถ้าอาจการไม่ดีขึ้น-แย่ลง หรือผลชิ้นเนื้อผิดปกติ อาจแนะนำให้ผ่าตัดมดลูกออกคับ (ไม่ได้ตัดรังไข่ออกด้วยนะคับ คุนแม่ยังสามารถมีฮอร์โมนเพศตามปกติ ไม่ได้เป็นวัยทอง) เพราะป้องกันภาวะซีดจากการเสียเลือดเรื้อรัง และป้อวกันการลุกลามของโรคในกรณีที่เป็นมะเร็งคับ

No comments:

Post a Comment